> Beautiful Songs

artist : Various

album : Beautiful Songs

label : Warner

สัมผัสกับความไพเราะอย่างเต็มอิ่ม ครบทุกความรู้สึกอบอุ่นในธีมของความรักกับอัลบั้ม Beautiful Songs ในรูปแบบ 2 ซีดี มากันหลายยุค 90's ถึงปัจจุบันคละเคล้าข้ามยุคกันไปมามากถึง 36 เพลง สุดจะคุ้มว่างั้น เพลงใหม่หน่อยไม่เคยรวมในอัลบั้มก่อนๆ ก็ Yeal Naim กับ New Soul, เพลงจากซีรี่ย์ Coffee Prince- La La La, It's Love, Jason Marz - I'm Yours, James Blunt - Carry You Home, Renee Olstead - A Love That Will Last ที่เก่าและเก๋าเอาเป็นว่าหลายคนชอบ และส่วนตัวก็ปลื้ม Binocular-Deep, Lauren Wood-Fallen , Bread -If , Bangles - Eternal Flame, Kd. Lang- Constant Craving , Dan Fogelberg - Longer เอาเป็นว่ารวมเพลง Acoustic Hitz เล่ม 1 ออกเมื่อไหร่ สอยไปเล่นคลอได้เลยจ้า เพลงอยู่ในอัลบั้มนี้เพียบ

> Shin Hye Sung - The Beginning, New Days

artist : Shin Hye Sung

album : The Beginning, New Days

label + ข้อมูล : Warner Music

Shin Hye Sung (ชินเฮซอง) หนุ่มเสียงสวรรค์ หนึ่งในสมาชิกวงชินฮวาสุดยอดบอยแบนด์จากเกาหลี ส่งอัลบั้มเดี่ยวชุด 2 The Beginning, New Days.. ที่คว้าอันดับ 1 อัลบั้มขายดีที่สุด ยอดขายกว่า 50,000 ก็อปปี้ใน 1 สัปดาห์เท่านั้น พร้อมส่งซิงเกิ้ลฮิต First Person ติด Top 10 ทุกชาร์ตเพลง นอกจากจะได้รับรางวัลทางดนตรีในสาขา Best Album และBest MV Shin Hye Sung ยังได้รับการโหวตให้เป็นหนุ่มสุดฮอต Asia’s Most Superstar และ Popularity Award

พิเศษ Enhance Music Video ‘First Person’ ในอัลบั้มเฉพาะขายประเทศไทยเท่านั้น

> Simone - Simone on Simone

artist: Simone

album : Simone on Simone

label + ข้อมูล : Platinum

ซิโมน นักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดงที่มีความสามารถอันหลากหลายแนวทางเช่นเดียวกับแม่ของเธอ สุดยอดนักร้องและนักบุกเบิก นินา ซิโมน ด้วยเรนจ์เสียงที่กว้าง ทักษะในการตีความหมายเนื้อเพลง และความเข้าใจในดนตรีจากวิญญาณที่เชื่อว่าดนตรีนั้นเป็นดั่งการเยียวยา การเพิ่มพลัง และการเฉลิมฉลอง ซิโมนจึงเป็นลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นอย่างแท้จริง และยังเป็นศิลปินที่มีความสามารถอันเปี่ยมล้นในแบบฉบับของเธอเองอีกด้วย

Simone On Simone อัลบั้มชุดแรกของซิโมนที่ทำออกมาเพื่อเป็นการให้เกียรติและแสดงความคารวะต่อแม่ของเธอ คัดเลือกบทเพลงที่แม่ของเธอเคยขับร้องเอาไว้นำมาเรียบเรียงใหม่ให้เหมาะสมกับวงบิ๊กแบนด์ 19 ชิ้น โปรดิวซ์โดยบ๊อบ เบลเดน (ไดแอนน์ รีฟส์, เมล ลูวิส และอีกมาก) ซึ่งซิโมนได้นำเอาประสบการณ์ที่เธอได้รับจากการแสดงละครบรอดเวย์ อย่าง Rent, The Lion King และ Aida มาใช้อย่างเต็มที่ หลังจากที่ค้นหาตัวเองอยู่นาน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนวิศวะโยธา การเข้ากองทัพ แต่สุดท้าย เธอก็ได้รู้ว่า เธอมีความสุขที่สุดเมื่อได้ร้องเพลง และแม่ของเธอก็ยอมรับในความสามารถของลูกสาวคนนี้ โดยมีโอกาสได้ขึ้นเวทีร้องเพลงร่วมกันมาแล้ว ซึ่งถูกนำมารวมไว้ในอัลบั้มนี้ด้วยกับแทร็ค Music For Lovers

คลิกฟังเพลงตัวอย่างทั้งอัลบั้ม

> Shearwater : Rook

artist : Shearwater
album : Rook
label + ข้อมูล : Platinum
ปีที่แล้ว เท็กซัสมีวงดนตรีส่งออกหน้าใหม่เกรด A อย่าง Voxtrot มาปีนี้ เป็นคิวของวงรุ่นพี่ที่มีผลงานยอดเยี่ยมมาตลอดเกือบ 10 ปี ได้ฤกษ์ออกอัลบั้มใหม่ หลังจากอัลบั้มที่แล้วมีการอิมพอร์ทเข้ามาขายและเป็นที่นิยมอย่างสูงในกลุ่มนักฟังเพลง
Sheawater ที่มีสมาชิกหลักคนสำคัญคือ โจนาธาน เมเบิร์ก ที่ยอมลาออกจาก Okkervil River วงที่ได้รับการนับหน้าถือตาว่าเป็นศิลปินนอกกระแสที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกวงจากออสติน เท็กซัส เพื่อมาลงหลักปักฐานอย่างจริงจังกับ Shearwater หลังจากความสำเร็จของ Palo Santo อัลบั้มที่แล้ว ขณะที่วิล เชฟ ที่ร่วมก่อตั้ง Shearwater ด้วยกันมา และเป็นสมาชิกสำคัญของ Okkervil River เช่นกันยังคงสนับนสนุนอยู่เบื้องหลัง แม้จะไม่ได้มีบทบาทมากเหมือนในยุคแรกของ Shearwater ก็ตาม
ดนตรีของ Shearwater คือการผสมผสานร็อคเข้ากับโฟล์ก และมีการแต่งกลิ่นด้วยเครื่องดนตรีอื่นเข้ากับเสียงสังเคราะห์บางๆ ฟังดูเหมือนน้ำเย็นที่ค่อยๆไหลผ่านเป็นสายเล็กๆตามหุบเขา แม้จะไม่ใช่แม้น้ำสายหลักแต่ให้ความชื่นใจได้ไม่แพ้กัน เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกที่ชื่อ Rooks ที่ได้รับเสียงฮือฮาไม่น้อย ตัวอัลบั้มก็ได้รับการพูดถึงตั้งแต่ยังไม่วางจำหน่ายเช่นกัน ชุดนี้โจนาธานลงมือโปรดิวซ์ด้วยตัวเอง เรื่องราวในอัลบั้มพูดถึงความเป็นไปตามธรรมชาติโลกมนุษย์ การเป็นเหยื่อและผู้ล่า สายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมไปถึงโลกหลังจากการสูญสิ้นของมนุษย์ ทั้งหมดนี้ถูกแต่งแต้มด้วยเสียงเครื่องสายและเครื่องเป่า พร้อมได้คุณงามความดีในภาคริธึมของจากเพื่อนร่วมวงทั้งสอง คิม เบิร์ก และ ธอร์ แฮร์ริส มาประกอบจนสมบูรณ์ด้วย
Shearwater ได้แก่ โจนาธาน เมเบิร์ก, คิม เบิร์ก และธอร์ แฮร์ริส

> Islands : Arm's Way

artist : Islands

album : Arm's Way

label + ข้อมูล : Platinum

นอกจาก The Arm’s Way จะเป็นอัลบั้มที่มีหน้าปกสวยที่สุดประจำปี 2008 แล้ว ดนตรีและสาระในอัลบัมนี้ยังขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในอัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปีไม่ต่างจากเมื่อครั้งพวกเขาออกอัลบั้มแรก Return to the Sea เมื่อปี 2006 แต่อย่างไรก็ตาม วงจากมอนทรีอัลแคนาดากลุ่มนี้ ยกให้ Arm’s Way เป็นอัลบั้ม “วง” ชุดแรกของพวกเขา เนื่องจาก Return to the Sea เป็นผลผลิตจากการทำงานลำพังของนิโคลัส ธอร์เบิร์น ตั้งแต่ตอนที่ยังรวบรวมสมาชิกวงไม่ครบ

The Arm’s Way ได้ไรอัน ฮาดล็อค มาเป็นทั้งโปรดิวเซอร์ร่วมกับวง และเป็นวิศวกรเสียง ซิงเกิ้ลแรกThe Arm ถูกแต่งขึ้นในป่าริมถนน หลังจากรถตู้ของวงยางแตก พวกเขาถูกทิ้งร้างอยู่สามชั่วโมง กระทั่งพายุใหญ่เข้า ทำให้ต้องวิ่งหลบเข้าป่าริมทาง ซึ่งนิคคว้าเอากีตาร์ติดไปด้วย ขณะที่เพลง J’aime Vous Voir Quitter ดูเผินๆแล้วเหมือนชื่อเพลงฝรั่งเศสเพลงหนึ่ง ซึ่งก็คงไม่แปลกอะไรสำหรับคนแคนาดาที่พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาหลักในหลายเมือง ทว่าจริงแล้ว เพลงนี้นิคเขียนให้เจมี ธอมป์สัน หรือ J'aime Tambeur อดีตสมาชิกคนสำคัญที่ทำงานร่วมกับนิคมาตลอด ขอลาออกจากวงไปเมื่อกลางปี 2006 เนื่องจากความรู้สึกไม่มั่นใจว่าตัวเองต้องการอะไร และหลังจากเหตุการณ์นั้น Islands ก็เดินหน้าต่อและจากที่ได้ยินได้ฟัง The Arm’s Way แล้ว ก็อุ่นใจได้ว่า พวกเขาไม่ได้เสียกำลังใจแม้จะเสียกำลังสำคัญไปหนึ่งคน หากเริ่มต้นใหม่และสานต่อได้อย่างดีเยี่ยมในรูปแบบที่คาดไม่ถึงทีเดียว
Islands ได้แก่ นิโคลัส ธอร์เบิร์น, แอรอน แฮร์ริส, พาทริซ อักโบคู, แพทริก เกรกัวรี, อเลกซ์ โจว และเซบาสเตียน โจว

> The Notwist - The Devil, You+Me

artist : The Notwist

album : The Devil, You+Me

label + ข้อมูล : Platinum

วงจากประเทศเยอรมนีถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1989 ยุคแรกของวง พวกเขายังนิยมเล่นดนตรีสไตล์หนักหน่วงอย่างเมตัล ก่อนจะค่อยๆเพิ่มความละเมียดละไมทดลองแนวดนตรีใหม่ๆเพิ่มเติมจนกลายมาเป็นสุดยอดอัลบั้มอย่าง The Neon Golden ที่ผสมผสานทั้งร็อคเข้ากับอิเลกทรอนิกสวยงามเกินห้ามใจ ได้รับการยกย่องให้เป็นอัลบัมยอดเยี่ยมประจำปี 2002 และยังคงได้รับการสรรเสริญมาถึงปัจจุบัน The Devil, You + Meเป็นอัลบั้มที่รวบรวมความดีงามของ The Notwist ในยุคที่ดีที่สุดของพวกเขาไว้ด้วยกัน บ่งบอกให้เห็นเอกลักษณ์และโครงสร้างทางดนตรีที่ก้าวต่อไปไม่มีตกยุค เนื้อหาของแต่ละเพลงก็ทำให้คุณซึมลึกกับภาพชีวิต ตั้งแต่เพลงแรก Good Lies ไปจนแทร็กสุดท้ายที่เป็นโฟล์กแสนหวาน Gone, Gone, Gone

The Notwist ได้แก่ มาร์คุส อาเชอร์ (กีตาร์/ร้อง) มิเชล อาเชอร์ (เบส) แอนดี ฮาเบิร์ล (กลอง) มาร์ติน เกรตชมานน์ (โปรแกรมมิง)

คลิกฟังเพลงตัวอย่างทั้งอัลบั้ม

> Tricky - Knowle West Boy

artiat : Tricky
album : Knowle West Boy
label + ข้อมูล : Platinum
ทริคกี หรือชื่อจริง เอเดรียน ธอว์ส หนึ่งในกลุ่มศิลปินตัวเอ้ที่นำพาดนตรีบริสตอลซาวน์ดให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง สื่อความหลากหลายต่างวัฒนธรรม ตั้งแต่เนื้อเพลงที่สะท้อนความคิดของผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างความคิด ไปจนถึงการร้องกึ่งแร็พกึ่งร้อง และดนตรีลูกผสมที่ยืนพื้นด้วยอิเลกทรอนิกและเออร์บัน หลายคนเรียกเขาว่าเป็นศิลปินแนวทริปฮอพ ที่เจ้าตัวเองไม่ได้ปลาบปลื้มกับการระบุแนวเพลงแบบนั้นจากอัลบั้มแรก Maxinquaye ที่ฮิตติดลมบนจนขึ้นถึงอันดับ 3 ของชาร์ตอังกฤษในปี 1995
มาถึงอัลบั้มล่าสุด Knowle West Boy ที่ห่างจากอัลบั้มก่อนหน้านี้ถึง 5 ปี ทริคกีร่วมโปรดิวซ์กับเพื่อนซี้ Switch เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรก Council Estate ที่เป็นฮิพฮอพผสมโพสต์พั้งก์ กับวิดีโอที่ยังคงแปลกและล้ำสมัย ทั้งย้อนให้คิดถึงวิดีโอเพลงแรกของเขาทีผสานเข้ากับวงโลกดนตรีในปัจจุบัน เรียกว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ทริคกีก็ยังเป็นศิลปินที่ทำดนตรีที่สะท้อนให้เห็นความหลากหลายทั้งในแง่ของศิลปะและวัฒนธรรม แบบที่หาได้ยากนักจากศิลปินรุ่นใหม่ และคุ้มค่าจริงๆ สำหรับความเปรี้ยวเก๋แอบมีปรัชญาหลังจากรอคอยกันมา 5 ปี
คลิกฟังเพลงตัวอย่างทั้งอัลบั้ม

> American Music Club - The Golden Age

artist : American Music Club
album : The Golden Age
label + ข้อมูล : Platinum
American Music Club จากซานฟรานซิสโก วงที่ได้รับเกียรติจากรุ่นพี่รุ่นน้องสื่อมวลชนรวมไปถึงแฟนเพลงมากมาย ที่พากันยกย่องให้พวกเขาเป็นวงแห่งตำนาน ทั้งที่ยังไม่สลายหายไปไปไหน อยู่ในวงการมานานถึง 20 ปี แถมตลอด 20 ปียังผลิตงานชั้นดีออกมาให้ฟังโดยไม่ขาดระยะอีกด้วย
The Golden Age อัลบัมลำดับที่ 9 ที่แม้จะมีไลน์อัพวงใหม่ แต่ AMC ก็ยังตอบโจทย์ของการเป็นวงในตำนานได้ดีเยี่ยม ด้วยแกนนำสำคัญของวง มาร์ก อิตเซิล ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นนักเขียนเพลงยอดเยี่ยมที่สุดในโลก (ที่ยังมีชีวิตอยู่) จาก The Guardian นิตยสารที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดหนึ่งฉบับของเกาะอังกฤษ แม้เนื้อเพลงกับดนตรีที่มาร์กบรรจงแต่งขึ้นมาจะถูกพูดถึงในแง่ “หมองหม่น” แต่เขายืนยันว่า การเขียนเพลงของเขานั้นไม่สำคัญว่าจะต้องหมองหม่นหรือกรีดอารมณ์ขนาดไหน เขาแค่ชอบที่จะแต่งเพลงป๊อปดีๆ ซึ่งดูเหมือนว่าในความเป็นจริง เขาจะทำได้ดีกว่าคำว่า “ดี” ไปหลายขุม ดนตรีผสมป๊อปโฟล์กและร็อคในอัลบั้มชุดนี้ บันทึกเสียงเสียงที่สตูดิโอคิงไซส์ในแอลเอ กับโปรดิวเซอร์ เดฟ ทรัมฟิโอ ที่สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยงานโปรดิวซ์ Summerteeth ของ Wilco เป็นต้น
คลิกฟังเพลงตัวอย่างทั้งอัลบั้ม